บทความโดย ฟองเวลา
‘เวลานั้นได้หลับใหลมานาน เหมือนมันไม่เคยมีอยู่ เวลาไม่ได้ดำรงอยู่โดยตัวมันเอง หากขาดซึ่งพลังงานมันก็กลายเป็นซากเวลา เท่านั้น’ ผู้อาศัยคนเดิมย้ายออกไปราวสี่ปีมาแล้ว ในบ้านที่รื้อข้าวของออกจนโล่ง และเก็บคัดไว้แต่ของที่ยังพอใช้ได้อยู่ กับใช้บ้านทั้งหลังเป็นที่เก็บของ พวกเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องตัดหญ้า ซากรถเครื่อง รวมทั้งใช้ทำราวตากผ้าในหน้าฝน ต่อมาก็ลามเลยเป็นทำเป็นที่แขวนผ้าถาวรไปซะ ข้อดีคือมันโล่ง ระบายอากาศได้ดีกว่าตู้เสื้อผ้าซึ่งปิดทึบ วันนั้นเมื่อรื้อหาของบางอย่างก็เจอว่ามีนาฬิกาพลาสติกแบบแขวนผนังซุกอยู่ในก้นตะกร้า นึกขึ้นมาได้ว่าแม่บ่นเรื่องไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลา
แม่ว่าเวลาตื่นนอนไม่รู้ตีเท่าไหร่ แม่มักจะตื่นตอนดึก ลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อเยี่ยวใส่แกลลอนตัดครึ่งจะได้เอาไปรดต้นไม้ในตอนเช้า แม่ว่าเยี่ยวทิ้งลงส้วมมันเสียของ มีบางคืนที่แม่หายง่วงแล้ว ตื่นขึ้นมาก็อยากรู้ว่าตอนนั้นมันเป็นเวลาเท่าไหร่? แม่มักจะลุกขึ้นมาบ้วนปาก ล้างหน้าแล้วนั่งลอกใบจากอยู่จนเช้า การไม่มีนาฬิกาไว้ดูเวลาทำให้แม่บริหารเวลาในค่ำคืนไม่ได้ มีบางคืนที่แม่ตื่นมาตอนดึก และนั่งลอกใบจากจนตีสี่ เมื่อเห็นว่าฟ้าไม่สว่างสักที และคงรู้สึกง่วงอีกครั้งจึงไปนอนต่อ ผมหยิบเอานาฬิกาเรือนกลมมาพลิกดู เข็มนาฬิกาบนหน้าปัดอกเวลาบ่ายสามโมงกว่า มันคงเป็นบ่ายสามของหลายปีก่อน ก่อนที่พลังงานจะหมดไปจากถ่าน ผมหยิบเวลาที่ตายแล้วขึ้นมา คิดในใจว่าจะลองตรวจดูเผื่อจะยังปลุกฟื้นเวลาขึ้นมาได้ จะได้ไม่ต้องซื้อเรือนใหม่ และแล้วเมื่อนำถ่านก้อนใหม่ใส่เข้าไป เวลาก็ฟื้นตื่น มันขยับดัง ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก อย่างสม่ำเสมอ ผมดีใจ ลูกชายที่ยืนลุ้นข้าง ๆ ก็ดีใจ ผมหมุนตั้งเวลาโดยเทียบกับโทรศัพท์ แล้วนำไปแขวนไว้ที่บ้าน คืนต่อมาแม่บ่นว่าดูเวลาไม่รู้ ผมก็ว่าจริง เพราะลวดลายบนฉากพื้นหลังของมันชวนให้ตาลาย จำแนกแยกแยะไม่ออกว่าตรงไหนเป็นตัวเลข ตรงไหนเป็นดอกไม้ สองวันต่อมาผมจัดการรื้อพื้นหลังที่เป็นกระดาษสีลวดลายออก เอากระดาษ เอ.สี่มาตัดเป็นวงกลมเท่าขอบในของหน้าปัด เขียนเลขกำกับเวลาด้วยปากกาเคมีสีดำรอบวงซึ่งขีดแบ่งอย่างคาดคะเนเอา แล้วประกอบทุกอย่างกลับที่เดิม หมุนเฟืองตั้งเข็มเวลา แล้วนำไปแขวนไว้ตรงเสาเหนือระดับศีรษะ ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก เสียงเดินของเข็มวินาทีดังเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ แม่มีนาฬิกาไว้ดูแล้ว
คืนนี้ผมตื่นตอนตีสอง จะนอนต่อก็ไม่หลับ จึงลุกมาจัดแจงจะอ่านหนังสือที่เพื่อนเพิ่งส่งมาให้ยืมอ่าน ใช้เวลาโอ้เอ้กับแก้วกาแฟและโทรศัพท์อยู่นาน เปิดผ่านสี่ห้าหน้าแรกที่เป็นคำนำซึ่งอ่านแล้วเมื่อตอนกลางวัน พออ่านคำจากผู้แปล ก็ฉุกคิดสงสัยขึ้นมาว่า หนังสือนี้ที่เคยอ่านเมื่อ 7 ปีก่อน เป็นสำนวนแปลของใครกัน จึงต้องหยิบโทรศัพท์มาเปิดกูเกิ้ลหาข้อมูลอีกหน รวมแล้วใช้เวลาเตรียมอ่านกว่า 2 ชั่วโมง เสียงเตียงนอนของแม่ขยับเอี๊ยด แม่ลุกเดินเสียงดังแต๊ก ๆ ๆ เป็นเสียงไม้เท้ากระทบพื้น แม่เหลือบมองนาฬิกา ผมถามว่ามองเห็นเห้อ! แม่ว่าเห็น ตอนนั้นเป็นเวลาตีสี่ แม่เดินไปล้างหน้า บ้วนปากที่ห้องน้ำ แล้วไปนั่งลอกใบจากอยู่ในครัว เสียงดังแกรก ๆ ๆ เสียงแม่ดึงแยกใบจากออกจากพี้ ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก เสียงเข็มวินาทีดังสม่ำเสมอ ‘เวลาไม่ได้ดำรงอยู่โดยตัวมันเอง หากขาดซึ่งการให้ความหมาย เรามอบหมายให้เวลาเป็นผู้ควบคุมกำหนดเรา’ …ผมปลุกเวลาที่หลับไปนานสี่ปี่ให้ตื่นมาควบคุมเรา.