บทความโดย ฟองเวลา
………การมีอยู่และเคลื่อนไหวของเธอส่งผลต่อชีวิตฉันบางช่วงเดือนเธอเคลื่อนห่างไกลออกไป แต่ฉันมั่นใจ เธอจะกลับมาไม่อิดออดต่อนัดหมาย แม้คืนที่ไม่มีเธอ ฉันยังรับรู้การมีอยู่ เพียงไม่ปรากฎต่อสายตาเท่านั้น ระยะห่างระหว่างเธอ-อาทิตย์ กับดาวโลก ก่อเกิดฤดูกาล เอื้อต่อสรรพชีวิตและฉัน ในคืนหนาวเธอยังได้เป็นสักขีพยานต่อการเอ่ยคำรักของชายหนุ่มหญิงสาว เธอส่งพลังดึงน้ำทะเลขึ้นท่วมพื้นลุ่ม ให้ชีวิตในแอ่งดินได้เริงร่า ก่อนจะดึงกลับพร้อมพัดพาตะกอนป้อนมหาสมุทร เธอป้อนอาหารให้ปลา กุ้ง หอย นานา และชาวเล เธอส่งพลังมายังพื้นดินเลนอันอุดม ที่ไม่ได้มีแต่ต้นจาก ยังมีพืชเถาวัลย์อีกชนิด
………’พืชหัวลิง’ ชื่อเหมือนศีรษะสัตว์จอมซน พืชเถาวัลย์ที่ต้องอิงอาศัยเกาะยึดพุ่มไม้อื่น ฉันได้เก็บใบอ่อนมาแกงเลียงกิน จะต้มลวกจิ้มน้ำพริกกะปิใส่น้ำส้มจากก็ไม่ผิดกติกาอันใด ผลของพืชหัวลิง นำมาปอก ฝาน หั่น ทำแกงส้มให้รสชาติที่แตกต่างจากมะละกอ ..เรื่องต้องห้ามคือ ห้ามทิ้งเศษอาหารเหลือให้หมา แมว ไก่ กินเด็ดขาด ไก่และเป็ดนั้น หากกินแกงใบหัวลิงเข้าไป ก็ถึงกับแข้งขาอ่อนระทวย ดั่งหญิงสาวต้องมนต์ลมปากชายเจ้าเสน่ห์ ทว่าอีกไม่นานก็จะฟื้นสติ ตาสว่างว่างั้น!!
………แต่สำหรับหมาแมวนั้นเล่า นี่จะนับเป็นมื้ออาหารสุดท้ายของชีวิตก็ว่าได้ หมาและแมวสังเวยชีวิตให้กับแกงใบหัวลิงมานักต่อนัก ทุกครั้งที่ใครสักคนในบ้านนำใบหัวลิงมาแกง ก็จะมีเสียงทัดทานเตือนย้ำจากน้องสาว เธอเลี้ยงแมวไว้ 5 ตัว และแมวทั้ง 5 ตัวก็เที่ยวเล่นอยู่ระหว่างบ้าน 3 หลังอย่างเป็นอิสระ ..โอกาสพลาดเผลอย่อมมีมาก ..ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เมล็ดในของผลหัวลิงสามารถทำเป็นยาเบื่อฆ่าเสือโคร่งได้ (เรื่องนี้ต้องตามอ่านในเฟซ.ฯ คุณ มนฑ์สุรัศมิ์ เมืองภักดี) ความเป็นไปไหวเคลื่อนของสรรพชีวิต สรรพสิ่งบนผิวเปลือกโลก ล้วนอยู่ภายใต้การเคลื่อนไหวเริงระบำระหว่าง เธอ ดวงอาทิตย์ และดาวโลก ด้วยจังหวะลีลาศวงสวิงที่ใหญ่กว่า ซึ่งหากใครไม่สังเกตก็อาจลืมไปได้ว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพลังและจังหวะกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้แล้วจันทร์เจ้าเอย.