บทความโดย ฟองเวลา
โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละครั้ง …หรืออาจมากกว่า ที่ฉันต้องเดินผ่านไปทางนั้น รถเข็นเหล็กสีแสด บรรทุกถังขยะขนาดความจุ 200 ลิตร เข็นไปเทขยะทิ้งที่หลุม ซึ่งขุดไว้ชายเขตวัดด้านทิศใต้ ใกล้กับหลุมขยะ คือฌาปนสถาน มันดูคล้ายสถานที่อโคจร อย่างไรหรือ ?? เหมือนถูกปล่อยทิ้งร้างไร้คนสนใจ!! เศษกระดาษรองแผ่นทองคำเปลว ถูกแรงลมพัดปลิวกระจายไปเกาะตามลานหญ้ารกเรื้อรอบๆ บริเวณ อดีตช่อดอกไม้สดที่เคยสวยงามถูกสุมไว้ตรงตีนบันไดด้านทิศตะวันออก นั่นแท่งโฟมที่ใช้เป็นฐานปักเสียบช่อดอกไม้ประดับหีบศพ นั่นกระดาษแข็งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของพวงหรีดที่แสดงออกถึงความอาลัย ความรัก ความผูกพันต่อผู้เสียชีวิต!!!
ยังมีจอกน้ำพล้าสติก ขวดน้ำที่ยังมีน้ำเหลือเกินครึ่ง ถุงหูหิ้ว ขวดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ขวดนมเปรี้ยว ขวดน้ำส้มแต่งสีปรุงรส ก้นกรองของบุหรี่ และก้นบุหรี่คนยาก ‘ใบจากมวยยาเส้น’ รอยรอบชายคาศาลาฌาปนสถาน มิไยว่าใกล้ๆกันจะมีถังพล้าสติกสีฟ้าเข้มขนาด 150 ลิตร วางอยู่ ข้างถังเขียนข้อความ ‘ถังขยะ’ บนพื้นบันไดเป็นคราบรอยเท้าที่ย่ำเหยียบมานาน พื้นหินขัดสีขาวจึงกลายเป็นสีหม่นคล้ำ ตะเกียงแก้วใบเล็กหลายใบ ถูกวางอย่างทิ้งขว้างตามซอกมุม ตามราวรั้ว หลายใบแตกและพร้อมจะบาดเท้าใครก็ตามที่เดินอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ เหล็กยาวที่ส่วนปลายเป็นตะขอสามง่าม มันไม่ใช่อาวุธคู่กายของยมทูตในนิทานปรัมปราหรอก!!
แต่นี่คือเครื่องมือสำหรับพลิกเขี่ยซากศพให้ไฟทำหน้าที่ลามเลีย เป็นกระบวนการส่งวิญญาณผู้ตายไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าตามแต่จะเชื่อกัน ตรงข้างๆวงกบหน้าต่างซึ่งถูกปลวกรับประทานจนโพรงกลวงแล้ว มีหิ้งบูชาที่สร้างอย่างง่ายๆ …น่าจะเป็นหิ้งที่ใช้วางเครื่องเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าเปรว หรืออาจเป็นท้าวเวสสุวรรณผู้คอยปกปักรักษาฌาปนสถาน!! วัดในรัศมี 5 – 7 กิโลฯ รายรอบบริเวณนี้ ไม่มีเมรุเผา สำหรับความตายของพุทธศาสนิกชนแถบนี้ จึงต้องพึ่งพาเมรุแห่งนี้เป็นที่ส่งคืนร่างสู่ธรรมชาติ ส่งวิญญาณไปสู่ที่เคยจากมา ฤๅ เราต่างไม่เคยสนใจตั้งคำถามถึงที่มาแห่งตน เราสนใจแต่การดำรงอยู่แห่งปัจจุบัน เคหสถานบ้านช่อง สิ่งอำนวยความสะดวกนานา ข่าวการปล่อยดาวเทียมที่รองรับเทคโนโลยี 6 G ของประเทศจีน ก็เพื่อการส่งและรับข้อมูลอย่างรวดเร็วของมนุษย์ ทั้งหมดนั่นเป็นเรื่องของความอยู่ยงคงรูปแห่งปัจจุบัน เพื่อสร้างความมั่นคงความเสถียร …
บนโลกที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยความเสื่อม ความไม่แน่นอน ฌาปนสถานที่ถูกละเลย ซึ่งทำคล้ายกับว่าเป็นสถานที่อโคจรที่ใครก็ไม่ควรเยี่ยมกรายไปใกล้ ก็คล้ายกับผู้คนต้องปิดประตูตาย มิให้มีสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ขณะประดับปรับแต่งสถานบันเทิงยามค่ำจนดูหรูฟู่ฟ่า พร้อมประกาศว่านี่คือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซาเล้งคันเก่า ขับโคลงเคลงมาตามทางลูกรัง คนขับผู้มีหน้าตาเนื้อตัวเก่าโทรมพอกันกับยานพาหนะ จอดกึกตรงลานดินหน้ากุฏิ หลังฝุ่นจางลง เขาเอ่ยเสียงดังเกือบเท่าการตะโกน บอกว่าพรุ่งนี้จะมีศพเข้ามาเผาอีกหนึ่งศพ เขาคือสัปเหร่อผู้ทำงานประสานใกล้ชิดกับท้าวเวสสุวรรณ ฉันกวาดเผาขยะ และเศษหญ้าแห้งที่พระมาตัดไว้ …เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับสถานที่อโคจรแห่งนี้ หมาวัดสองสามตัวเดินมานั่งๆ นอนๆ อยู่ใกล้ๆ มันกลายเป็นที่พึ่งทางใจยามยามรู้สึกวิเวกโหวง!! ให้ประโยชน์ทางอ้อมแลกกับข้าวน้ำที่ขุนพวกมันทุกวัน ตะเกียงน้ำมันใบเล็กหลายใบวางระเกะระกะ มันเคยให้ความสว่าง ส่องนำทางชีวิตสุดท้าย ก่อนจะหมดหน้าที่และถูกวางอย่างทิ้งขว้าง พรุ่งนี้จะมีตะเกียงเพิ่มขึ้นอีกใบ …ที่สุสานตะเกียง.