บทความโดย ฟองเวลา
ช่วงนี้หลวงพ่อ ชอบฉัน(รับประทาน) เมนู’เคยจี้’ หรือเคยจี (กะปิย่างไฟอ่อนๆ) กินกับข้าวสวยร้อน หรือกับข้าวต้มใส่น้ำเยอะๆ ไอร้อนโชยกรุ่น!!
สี่โรคหลัก คือ หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหอบ โรคต่อมลูกหมาก โรคไตเสื่อม แถมพ่วงด้วยโรครองๆ เช่น ท้องผูกซึ่งจะส่งผลให้ของเสียที่คั่งค้างจากวันก่อนๆลงไปแออัดอยู่ในลำไส้ใหญ่ ตรงโค้งสุดท้ายก่อนจะเลี้ยวไปออกประตูทวาร สี่สิบปีก่อนพ่อเคยรับการผ่าตัด’ไส้เลื่อน’ พ่อว่าขี้เก่าจะไปดันอยู่ตรงนั้น ทำให้รู้สึกปวดแผลที่เคยผ่าตัด โรคความดันโลหิต โรคกระดูกเสื่อม และยังแพ้อาหารทะเลเกือบทุกชนิด หากกินเข้าไปแล้วพ่อมักจะมีอาการคันตามเนื้อตัว ….อาจเพราะอาหารทะเลเมื่อเข้าสู่สายพานธุรกิจความปลอดภัยก็ลดลง พูดให้ถูกคือ ภูมิคุ้มกันในร่างกายพ่อนั้นก็เสื่อมตามวัยด้วย จริงๆทั้งหมดนั่นเป็นความชรา ความเสื่อมของสังขาร มนุษย์กำหนดให้เป็นโรคเพื่อจะได้รักษาแก้ไข
จากอาการข้างต้น จึงต้องควบคุมดูแลเรื่องอาหารการกิน แม้จะเน้นเมนูย่อยง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะง่ายอย่างที่คิด เมื่อต่อมรับรสก็เสื่อมตาม หลายเมนูถูกปฏิเสธโดยผู้บริโภค ด้วยเหตุผลว่า’ไม่ชอบ’ หลายเมนูถูกเรียกหา ด้วยเหตุว่า ‘อยากกิน’
‘เคยจี้’ เป็นเมนูต้นๆที่ถูกเรียกหา ระยะนี้ร่างกายพ่อดีขึ้น หมายถึงว่าอยู่กับวัยชราได้อย่างสมดุล โรคข้างต้นยังอยู่กับร่างกาย แต่อยู่ในระดับที่ประนีประนอมกันได้ จัดความสัมพันทางอำนาจกันลงตัว โดยพ่อยอมลดความอยาก ความต้องการส่วนตัวลง เพื่อไม่ให้โรคภัยในตัวกำเริบ!! เมื่อต้นเดือนพ่อให้ฉันกลับบ้าน พ่อว่า “กลับไปอยู่กับลูกๆมั่ง ทิ้งมานานหวังเหวิดเด็ก ๆ” กรรมการวัดก็คงรู้สึกเวทนาและเมตตา จึงเสนอให้ช่วยงานก่อสร้างศาลาการเปรียญซึ่งทางวัดสร้างค้างคาอยู่ ฉันจะได้มีรายได้ และได้อยู่ใกล้คอยดูแลหลวงพ่อด้วย ฉันจึงกลายเป็นคนหาเช้ากินค่ำไปโดยสมบูรณ์ คือเลิกงานตอนเย็น’หลวงพี่เอ๋’ เจ้าสำนักสงฆ์จะจ่ายค่าแรงให้ทุกวัน ล้างจาน จัดยามื้อเย็นให้พ่อเสร็จ กว่าจะขี่รถเครื่องกลับบ้านก็มืดค่ำ เย็นนั้นพ่อสั่งว่า”อย่าลืมทำเคยจี้มาให้สักหน่อย”
เข้าวันต่อมาน้องสาวจัดการเมนูกะปิปิ้งไฟ ใส่กระปุกเตรียมไว้ให้ ฉันนำมาใส่ไว้ในตะกร้าหน้ารถเครื่อง ออกจากบ้านแต่เช้า ฉันตั้งใจแวะไป’วิดน้ำเรือ’ ซึ่งจอดอยู่ริมลำคลองห่างบ้านไปสักหนึ่งกิโลเมตรเสียก่อน ทุกเช้าฝูงลิงที่อาศัยอยู่บริเวณถ้ำจะเริ่มเคลื่อนฝูงข้ามลำคลองสายแคบไปหากินในผืนป่าจากอีกฟากฝั่ง โดยอาศัยทักษะการโยนตัวจากปลายกิ่งลำพูฝั่งนี้ ข้ามไปจับปลายกิ่งต้นแสมอีกฝั่งคลอง เมื่อฉันไปถึงฝูงลิงกำลังเคลื่อนพลอยู่พอดี ลิงเด็กตัวหนึ่งคงตกใจฉัน มันโยนตัวผิดจังหวะ คว้าเอาความว่างเปล่าของอากาศแทนปลายกิ่งแสม ส่งให้ร่างมันหล่นตู้มลงผิวน้ำมิดหายไป ฉันยืนดูการอพยพอยู่บนแพจอดเรือ และลุ้นว่าเจ้าลิงน้อยจะดำไปผุดโผล่ริมตลิ่งของฝั่งไหน? ลิงแสมนั้นว่ายน้ำเป็นตั้งแต่กำเนิด แต่เท่าที่สังเกตุมันจะใช้วิธีดำน้ำแทนการว่าย ถ้าจำเป็นต้องลงน้ำ แต่โดยทั่วไปแล้วมันไม่ชอบลงน้ำ จะอาศัยการกระโดดโยนตัวไปตามพุ่มไม้ริมคลองมากกว่า ฉันยืนมองตรวจการณ์ไปตลอดแนวตลิ่งโคลนสองฝากก็ไม่เห็นวี่แววของลิงน้อย …มันคงไปโผล่ที่ซอกมุมของกอต้นจากซึ่งอยู่นอกรัศมีของสายตาฉันแล้วล่ะ สูงขึ้นไปเหนือผืนน้ำ บรรดาลิงน้อยใหญ่ยังเคลื่อนฝูงไปตามพุ่มเรือนยอดไม้
ลิงใหญ่บางตัวยังโอ้เอ้อยู่แถวถนนคอนกรีต แถวลานหญ้าบริเวณถ้ำ คงหวังว่ายามเช้าของวัน อาจมีคนใจอารีย์หลงเข้ามาแจกจ่ายบุปเฟ่ลิง มื้อเช้าสักรายสองรายมั๊ง!!! ฉันละความสนใจจากฝูงลิง มองดูท้องเรือมีน้ำซึมเข้ามานิดหน่อยเท่านั้น ก็เลยเดินกลับไปที่รถเครื่อง ด้วยว่ายังต้องขี่รถไปอีกกว่ายี่สิบกิโลฯ เพื่อไปยังวัด เศษถุงปล๊าสติกถูกฉีกทิ้งเรี่ยราดอยู่ห่างๆออกไป ลิงถึกสามสี่ตัวยังเมียงมองอยู่แถวนั้น มันรักษาระยะห่างในระดับที่ไว้ใจได้เมื่อเห็นฉันเดินไปที่รถเครื่อง ในตะกร้าหน้ารถมีแต่ความว่างเปล่า ‘ปุกเคยจี้’ หายไปแล้ว ….มันต้องเป็นไอ้สามสี่ตัวนี่แหละที่เป็นผู้ลงมือ นั่นไอ้ตัวนั้นนั่งอยู่บนกอจาก ยกมือขึ้นถูปากขยุกขยิก ในมืออีกข้างยังถือเศษถุงขาวๆอยู่ไหวๆ
Food (NO) Delivery Monkeyอาย!!