ในสวน ตอน 2

โดย ตะปู

ทุกอย่างเริ่มขึ้นใต้ต้นสะเดา วันนั้นแม่ชวนผมคิดเรื่องวางระบบน้ำในสวน แม่ลงมะพร้าวไว้แต่มันโตไม่สมวัย เสร็จจากมะพร้าวแกกะจะปลูกพริกไทยต่อ แม่เดินนำจนพ้นเขตแดนที่ผมคุ้นเคย แม่ว่าแกซื้อที่แปลงนี้แล้ว แม่อธิบายเขตแดนประกอบประวัติศาสตร์ พื้นที่แถบนี้เป็นที่ตั้งชุมชนสมัยก่อน ตากับยายปลูกบ้านอยู่ที่นี่ เดินไปคุยไปเราก็มาโผล่ใต้ต้นสะเดา

เรือกสวนที่เราผ่านมาคือทิศตะวันตก สะเดาต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านอยู่ทางทิศนี้ ทิศตะวันออกเป็นสวนผลไม้ ทิศเหนือข้ามสระน้ำไปเป็นสวนยาง ทิศใต้เป็นกอไผ่และไม้ขึ้นเองร่มครึ้ม ลานกว้างถูกโอบล้อมไว้โดยแมกไม้ ผมมองภาพนั้นด้วนความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน ผมน่าจะอยู่ที่นี่ได้

ผมเล่าให้แม่ฟังและขอให้แม่ชะลอโครงการที่คิดไว้ จากนั้นไม่ว่าผมจะไปที่ไหน ทำอะไร ภาพต้นสะเดาและลานกว้างก็ติดอยู่ในความคิดตลอดเวลา ผมวาดแปลนบ้านดินหลังน้อยโดยโครงสร้างของบ้านหยอกล้อไปกับต้นสะเดา ผมจัดสรรพื้นที่ แปลงผัก ท่าน้ำ ลานกิจกรรม

กลับจากพม่าผมยืนยันความคิดนี้กับแม่ ผมขอทำอย่างที่ผมอยากทำ แม่เข้าใจและพร้อมจะสนับสนุนเต็มที่ ทุกอย่างเกือบจะเริ่มเมื่อผมกับพี่นิคถางถากหญ้าผืนใหญ่ที่ปกคลุมพื้นลาน แต่เพราะผมมีอาการบาดเจ็บเราจึงต้องหยุดกันไปก่อน ช่วงที่พักฟื้นผมได้รู้ในตัวเองว่า ถ้าเริ่มแล้วผมจะไม่อยากไปไหน เมื่อหายดีผมจึงเดินทางไปหาเพื่อน ๆ ที่เคยได้รับปากไว้ เป็นทริปส่งท้ายก่อนเริ่มงานของตัวเอง

ภาพ โดย ตะปู

วันแรกของการทำสวน ผมลับพร้าที่ซื้อมาจากอุตรดิตถ์อย่างบรรจง ลูบไล้จนมั่นใจว่าคมดีทั้งเล่มยามเย็นแดนอ่อนก็แบกพร้าเดินเข้าสวน ผมหยุดอยู่ใต้ต้นสะเดาด้วยความงุนงง หญ้าทั้งลานกว้างกลายเป็นสีเหลือง อีกฟากของสระน้ำทางทิศตะวันออกขวดยาฆ่าหญ้าเสียบหราอยู่บนไม้ที่ปักไว้

ผมเข้าใจผิดเรื่องเขตแดน ความเสียใจของผมอย่างเดียวต่อเรื่องนี้คือการที่เราไม่ได้คุยกัน ผมถ่อยร่นเขามาในพื้นที่ของตัวเอง ถางมุมหนึ่งใต้กอกล้วยใช้เป็นที่พัก ลบลืมภาพที่เคยฝันไว้ อยู่กับความเป็นจริง

จากนั้นทั้งหมดคือการด้นสด ผมใช้ความมุ่งมั่นหล่อเลี้ยงด้วยพลังใจ ผมอยากกางเต็นท์ในสวนแล้วทำงานของตัวเองไปช้า ๆ แต่ยายไม่ยอม ผมหาทางออกด้วยทำแคร่ไม้ไผ่ไว้ในกอหมาก กะขนาดให้ใหญ่พอจะกางเตนท์ได้แต่ยายก็ยังไม่ยอม ถึงที่สุดสิ่งปลูกสร้างแรกก็เกิดขึ้น

ผมคุยกับพ่อเรื่องยกขนำ แรกนั้นผมเพียงจะย้ายอาคารเก่าหลังบ้านมายกสูงแค่พออยู่ได้ แต่กลายเป็นว่าไม้เก่าเหล่านั้นใช้งานไม่ได้เลย จากงานย้ายขนำจึงกลายเป็นสร้างขนำเพียงข้ามคืน พ่อและทีมงานเนรมิตอาคารหกเสายกพื้นสำหรับอยู่อาศัย และห้องน้ำอีกหนึ่งหลังขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์

ยายน่าจะดีใจมากแม้ไม่พูดออกมา แกดูฤกษ์และทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ด้วยตัวเอง โปรยเข้าสารทั่วบ้านฝากฝังผมไว้กับบรรพบุรษ แกสะบายใจแล้วถ้าผมจะอยู่ที่นี่

ขนำไม่มีผนัง เต้นท์หลังหนึ่งกางอยู่บนนั้น เทียนพรรษาให้แสงส่องสว่าง ผมนั่งมองห้องน้ำที่กั้นไว้ด้วยสังกะสี การเข้ามาอยู่ในพื้นที่นี้เจตนาของผมไม่ต้องการผูกมัด ผมอยากทำอาคารดินด้วยวัสดุที่พร้อมจะย่อยสลาย ปลูกต้นไม้ที่จะเติบโตแม้ไม่ได้รับการดูแล มันไม่ใช่เรื่องทางหนีทีไล่ แต่ผมไม่อยากทิ้งสิ่งใดที่ผมสามารถรับผิดชอบได้ไว้เบื้องหลัง

แสงเทียนวะวูบไหว หรีดหริ่งฮัมทำนองสงบ ควันใบจากลอยฟุ้ง ก่อนจะสลายไปในแรงลม
ไม่รู้ว่าตัวผมรู้สึกอย่างไร

นั่นคือเรื่องราวส่วนแรกของการทำสวน จนวันนี้ผมก็ยังตอบไม่ได้ว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้คืออะไร ไม่สามารถสรุปใจความใด ๆ ที่จะส่งต่อได้โดยง่าย สำหรับผมมันคือการใช้ชีวิตร่วมกับความเป็นไป รสชาติที่ไม่ปรุงแต่งของความจริง
.
.
.
ดูท่าเรื่องสวนนี่จะมีตอนต่อไปออกมาเรื่อย ๆ ซะแล้วละครับ