บทความโดย ฟองเวลา
ผู้คนยุคไฮเทคโนโลยี ต่างให้ความสำคัญต่อเดือนนี้ พยายามยึดมันเป็นหมุดหมายบางอย่างในใจ บางคนไม่มีอะไรให้ข้องเกี่ยว นอกจากสัมผัสได้ว่าอากาศร้อนขึ้น นั่นก็เพราะโลกเหวี่ยงตัวเองเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ พร้อมทำมุมเอียงตะแคงแอ่นรับรังสีความร้อนเต็มๆ นักดาราศาสตร์อธิบายว่า วงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์มีลักษณะเป็นวงรี คงคล้ายสนามแข่งรถ …แต่รถโลกยังไม่เคยซิ่งหลุดโค้ง ไม่งั้นคงมีหนาว!! นั่นเป็นเรื่องราวของสภาพดินฟ้าเดือนกุมภาพันธ์ แต่เรายังอดหวั่นไหวไม่ได้เมื่อได้ยินใครๆต่างพูดถึงเรื่องราวของความรัก ความรักตัวเอง’ของกู’ ตามภาษาธรรมของ ท่านพุทธทาส แต่ไม่ว่าเราจะให้ความหมายมันว่าเป็นเดือนสีชมพูหรือให้ค่าสวยหรูสำคัญเช่นไร เมื่อผ่านไปอีกรอบปี อะไรต่างๆดันไม่เป็นไปตามที่คาด สีแห่งเดือนอาจถูกป้ายเติมให้กลายเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง ..นั่นเป็นเรื่องการเติมแต่งภายในทั้งสิ้น ตามอารมณ์ความรู้สึก…
ไม่แปลก ถ้าทั้งหมดเรารู้ว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาลแห่งชีวิต แล้วเราก็ข้ามพ้นความรู้สึก ‘อยากเฉลิมฉลองอย่างลืมตาย และฟูมฟายเหมือนโลกสลายลงตรงหน้า’ เมื่อเรานึกขึ้นมาได้ว่า เราก็เพียงแค่เศษฝุ่นที่ก่อรูปขึ้นจากนานาปัจจัย อิงอาศัยอยู่ที่ผิวก้อนดินใหญ่ก้อนหนึ่ง ที่ลอยเท้งเต้งอย่างไร้จุดหมาย แล้วแต่ว่าดวงอาทิตย์จะพาเคลื่อนไปทางไหน พูดเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าจะบอกให้ตัวเองเลิกรู้สึกรู้สา เพียงแต่ให้รู้ตัวว่า เราต่างรับบทแสดง จะแสดงได้ดีหรือห่วยแตก มันก็แค่บทละครชีวิต เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องลงจากเวที รู้เช่นนี้แล้ว ก็โปรดหัวเราะ ร้องไห้ หรือจะตะโกนดีใจ ลิงโลด ฟูมฟาย กระทั่งจ่อมจมดำดิ่ง ก็แค่บทหนึ่ง เมื่อฉากแห่งเดือนกุมภาพันธ์เคลื่อนมา …และกำลังเคลื่อนผ่าน ตามวงโคจรของโลก.