รักไม่ต้องตีตรา เรื่องเล่าจาก(อดีต)นักศึกษา

โดย ฟองเวลา

“มึงจะตายนะเพื่อน …ถ้าเล่นเอาจริงแบบนี้” ‘พี่ศักดิ์’พูดเตือนเพื่อนนักศึกษาชั้นปีเดียวกัน ทว่าอายุน้อยกว่าซึ่งเข้าร่วมกิจกรรม’อดอาหารประท้วง’การประกาศขึ้นค่ารถเมล์ขสมก. จากหนึ่งบาท เป็นหนึ่งบาทห้าสิบสตางค์ของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่สนามหลวง “คนเราทำอะไรก็ต้องทำจริงจัง ไม่หลอก ไม่สร้างภาพ …ยังไงเกิดมาแล้วก็ต้องตายทุกคน จะตายทั้งทีก็ขอตายให้มันสมศักดิ์ศรีหน่อย” เพื่อนรุ่นน้องกล่าวตอบหนักแน่น ทว่าเสียงนั้นแหบโหยอ่อนแรง แล้วเพื่อนๆก็หิ้วปีกประคองนักศึกษารายนั้นขึ้นไปบนเวทีเพื่อกล่าวความรู้สึกต่อรัฐบาล “ผมผิดหวังกับรัฐบาลนี้มาก” พูดจบเขาทิ้งตัวร่วงผลอยลงกับพื้นเวที รวดเร็วเกินเพื่อนๆจะเข้าไปประคองได้ทัน ‘พี่ศักดิ์’ไม่ได้เล่าว่าครั้งนั้น รัฐบาลตอบรับข้อเรียกร้องเช่นใด


หลายวันต่อมา ในเวลาเย็นใกล้ค่ำ ขณะนักศึกษาษากลุ่มใหญ่กำลังเดินผ่านสนามฟุตบอล จู่ๆก็มีเสียงเพลงชาติดังขึ้น มันเป็นเวลาสิบแปดนาฬิกาตรง ทุกคนชะงักเท้า ยืนตรง แต่นักศึกษาผู้นั้นยังก้มหน้าเดินงุดๆเหมือนคนหูดับ คล้ายอายตนะนอก ในไม่เชื่อมต่อกัน “พันพรื้อ! มึงไม่ได้ยินเสียงเพลงชาติเหอ?” ‘พี่ศักดิ์’ดึงไหล่เพื่อนแล้วถาเมื่อเพลงชาติจบลงแล้วและกลุ่มเพื่อนๆก็เดินไล่ตามจนทันกัน “พี่ศักดิ์โร้ม้าย ..รักชาติไม่จำเป็นต้องแสดงออกก็ได้ ..ไอ้พวกที่ยืนตรงนั่นไม่ใช่จะยืนยันได้ว่ามันรักชาติกันจริงๆ”

“ลุงค่ะ! ..เดี๋ยวลุงไปรับยาที่ห้องเบอร์สิบเก้านะค่ะ” ฉันละสายตาจากจอโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง เห็นพยาบาลสาวกำลังยื่นเอกสารส่งให้ แม้จะเป็นคำเรียกที่ฟังแปร่งหู แต่เมื่อเหลือบมองกระจกกั้นห้องพักพยาบาล มองเห็นเงาตัวเองในนั้นก็ได้แต่บอกตัวเองว่า ‘ต่อไปกูจะคุ้นชินกับคำนี้เองแหละ!’.

แด่ ….จิตวิญญาณ 7 สิงหาคม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *