บทความโดย ฟองเวลา
………ที่นี่เป็นชุมชนมุสลิมและคนพุทธอยู่ปะปนสลับกันไป มีวัดอยู่บนเนินเขา ใกล้โรงเรียน เยื้องฟากถนนด้านติดทะเลเป็นที่ตั้งของมัสยิด บ้านคนมุสลิมปลูกติดๆกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาชีพประมง และที่ทำงานรับจ้างทั่วไปก็จะมีพื้นที่อาศัยค่อนข้างจำกัด ครั้นเมื่อไวรัสระบาดมาถึง การรักษาระยะห่าง และมาตรการอื่นที่รัฐประกาศจึงทำได้ยากยิ่ง เมื่อสมาชิกในบ้านติดเชื้อมาจากคลัสเตอร์โรงงาน จึงพามาติดลามคนในครอบครัว ในชุมชน สองสามวันมานี้ มีผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้สูงอายุเสียชีวิตแล้ว 2 ราย ส่งผลให้คนในชุมชนพากันหวาดผวา
……… ‘บังดำ’ หนุ่มใหญ่ย่างวัยชรา เป็นหนุ่มจากชัยภูมิ ผู้เร่ร่อนหาอนาคตที่ดีกว่าจนมาลงหลักปักฐานกับสาวมุสลิม ที่เป็น’คนไทยพลัดถิ่น’ คือคนเชื้อสายไทยที่ตกค้างอยู่ในดินแดนพม่าและได้อพยพกลับมายังประเทศไทย คนกลุ่มนี้จำนวนมากยังมีปัญหาด้านสถานะบุคคล ยังไม่ได้เป็นพลเมืองไทยโดยสมบูรณ์ จึงรวมตัวรวมกลุ่มทำกิจกรรมเพื่อผลักดันการแก้ปัญาหาสถานะ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ในรูปแบบกลุ่มออมทรัพท์คนไทยพลัดถิ่นบ้านหินช้าง ด้วยข้อจำกัดมากมายข้างต้น พวกเขาจึงใช้ภูมิปัญญาตำรายาพื้นบ้าน ทั้งของมุสลิม และภูมิปัญญาอีสานถิ่นชัยภูมิ ประยุกต์เป็นยาต้านไวรัส ดูแลตัวเองและสมาชิกกลุ่ม / ชุมชน เพื่อลดความเสี่ยง ลดภาระให้กับระบบสาธารณสุข ตู้อบสมุนไพรแบบแสวงเครื่องจึงเกิดขึ้น ให้ใครก็ได้ที่อยากจะอบตัวสร้างภูมิต้านทานในกาย และยังได้นำน้ำต้มสมุนไพรไปแจกจ่ายให้กับคนที่ต้องกักตัวตามบ้านอีกด้วย
………ตามตัวเลขในบอร์ดรายงานของจังหวัดนี้ อาจจะมีความแตกต่างจากจังหวัดอื่นๆ แบ่งแยกคนที่ติดเชื้อเป็น 4 กลุ่มคน 1 คนไทย คงหมายถึงผู้มีสัญชาติไทยทุกคน 2 คือกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ซึ่งจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง 3คนไทยพลัดถิ่น คือกลุ่มคนเชื้อสายไทย ที่อพยพกลับมาจากประเทศพม่าเมื่อนานมาแล้ว รวมถึงลูกหลาน ซึ่งทั้งหมดยังถือสถานะ’บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน(กลุ่มที่มีเชื้อสายไทย) 4 มีคนสัญชาติจีน โผล่มาหนึ่งคน ตามข้อมูลอันเป็นที่รับรู้ของสาธารณะชน จังหวัดนี้มีคนมอแกนอาศัยอยู่ใน 3 เกาะแก่งอีกราว 600 คน ในจำนวนนี้ บางส่วนได้สัญชาติไทยแล้ว บางส่วนยังเป็นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน (กลุ่มมอแกน) ก็ชวนให้สงสัยว่าคนเหล่านี้ไม่ป่วย ไม่ติดเชื้อบ้างหรือ? ..จึงไม่ปรากฎในจำนวนนับของรายงาน!! กลุ่มสุดท้าย คือคนเชื่อสายไทย(ไทยพลัดถิ่น) และคนมอแกน ที่ยังไม่มีเอกสารแสดงตัวใดๆ ซึ่งอาศัยปะปนอยู่กับญาติพี่น้อง เป็นพ่อ แม่ ลูก เมีย ของกลุ่มคนข้างต้น …แม้ป่วย ก็ย่อมไม่อยู่ในจำนวนนับ …และวัคซีน ก็ไม่ได้มีไว้สำหรับคนจำนวนนี้!!! ได้แต่หวังว่าเขาจะจะดูแลตัวเองให้ไม่ป่วย ..ด้วยภูมิปัญญาตามแต่จะหาได้ …ถ้าป่วย ก็จะหาวิธีนักษาตัวเอง …ถ้าไม่รอด ก็จะตายอย่างเงียบ …และไม่แพร่เชื้อต่อให้ใคร.
………ทราบจากคลิปสื่อทางการลาว ที่ออกมาสยบ’ดราม่าเก็บเห็ดหลงป่าข้ามแดน’ สื่อทางการลาว เรียกชื่อไวรัสโควิด 19 อย่างน่ารัก ว่า “พยาธิโคหวิดสิบเก้า” ซึ่งฟังแล้วก็ให้เกิดความรู้สึกว่าไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวสักเท่าไหร่ ..แต่ก็ไม่ได้เรียกอย่างปรามาสว่า “ไข้หวัดธรรมดาๆ” ซึ่งนำไปสู่การออกแบบจัดการอย่างธรรมดาๆ ชิวๆตามมา วันนี้ผู้ติดเชื้อจึงทะลุ 21,379 คน และเสียชีวิตเฉียด 200 แม้จะมีผู้รักษาหายแล้วมากกว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่ แต่คนที่เคยป่วยก็ยังกลับมาป่วยได้อีก ดูแลตัวเอง ดูแลคนรอบข้าง และเผื่อแผ่เท่าที่จะทำได้นะครับ****ขอบคุณข้อมูลจาก Suda Thinchaigapoom***