โดย ฟองเวลา
ไม่ได้สอดคล้องกับเนื้อหาในเพลงของ ‘พี่เสือ’ธนพล อินทฤทธิ์ แต่ประการใด เป็น’พี่ตูบ’พันธุ์ไทยครอบครัวหนึ่ง เข้าใจว่าจะเป็นหมาแม่ลูกกัน ตัวเมียผู้เป็นแม่อายุมากแล้ว กับลูกวัยรุ่น ผู้หนึ่ง เมียหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมี’เจ้าเตี้ย’ หมาพันธุ์ผสมตัวลาย เดิมนั้นหมาสี่ตัวนี้จะยึดเอาลานปูนหน้ากุฏิหลวงพ่อเป็นที่หลับนอน ส่วนหมาตัวอื่นๆก็กระจายกันจับจองมุมต่างๆของสำนักสงฆ์เป็นพื้นที่ส่วนตัว มันจะมารวมตัวกันก็เวลามีรถยนต์ใครขับเข้ามา เมื่อตัวแรกขึ้นเสียงเห่า ตัวอื่นก็ขานรับกันขรม เห่ากันพอเป็นพิธีแล้วแยกย้ายที่ใครที่มันตามเดิม ฉันคิดว่าการเห่าของพวกมันคล้ายจะเป็นการประกาศด้วยเสียง เป็นการยืนยันการมีตัวตนของพวกมันว่า ‘กูคือส่วนหนึ่งของสำนักปฏิบัติธรรมนี้นะเว้ยเฮ้ย!!’ ที่ด้านทิศใต้ของวัดติดกับสวนปาล์มชาวบ้าน เป็นที่ตั้งของเมรุเผาศพและศาลาทำพิธีศพ เป็นที่อยู่ของหมาพันธุ์ไทยสีน้ำตาลตัวใหญ่ มันอยู่ในวัยฉกรรจ์ ปกติมันจะอาศัยเศษอาหารจากงานศพหล่อเลี้ยงชีวิต ไม่ค่อยเหยียบย่างเข้ามายังพื้นที่ส่วนในของวัดหรอก เว้นแต่ช่วงที่ไม่ค่อยมีใครตาย มันจำเป็นต้องเข้ามาเบียดแย่งส่วนแบ่งอาหารจาก’หมาชั้นใน’ ซึ่งก็ไม่มีตัวไหนเต็มใจแบ่งให้ แต่ก็ไม่กล้าเข้าปะทะซึ่งหน้าด้วยเกรงขนาดตัวของ’ไอ้น้ำตาล’ ความอยู่รอดของหมา’ไอ้น้ำตาล’คล้ายจะขึ้นอยู่กับความตายของคน ถ้ามีงานศพต่อเนื่องเท่ากับเป็นหลักประกันในความมั่นคงด้านอาหารของมัน! ส่วนชีวิตหมาวัดพื้นที่ชั้นในนั้นขึ้นอยู่กับแรงศรัทธาของชาวบ้านแถบนั้นที่จัดคิวหนุนเวียนกันนำอาหารมาถวายพระ บางวันที่เศษอาหารเหลือน้อย ‘ตาปะขาว'(พี่จิน)จะเป็นคนหุงข้าวด้วยหม้อใบใหญ่สำหรับเลี้ยงสุนัข หลวงพ่อกับกรรมการวัดจะสลับกันซื้อข้าวสารหมาราคาถูกมาไว้
คุณหมอวัยสาวผิวขาวจนดูซีดๆที่โรงพยาบาลแนะนำว่า อาการหอบของหลวงพ่อขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมด้วย ต้องหลีกเลี่ยงควันธูป ฝุ่น ควันบุหรี่หรือควันจากการเผาขยะ ขนแมวและขนสุนัข! ที่โต๊ะหมู่บูชาในกุฏิเปลี่ยนมาใช้ธูปเทียนไฟฟ้านานแล้ว ห้องหับในกุฏิถูกฉันปัดกวาดทุกวัน และฉันต้อง’ใจดำ’ต่อหมาสามแม่ลูกครอบครัวนั้น ที่เคยยึดพื้นที่หน้ากุฏิหลวงพ่อเป็นที่อยู่ “ที่ตั้งเป็นร้อยไร่ ทำไมต้องมานอนกระจุกตรงนี้” ฉันพูดพลางเล่นพลางจริง ในมือก็ถือไม้กวาดเงื้อง่าทำท่าหวด ครอบครัวหมารีบลุกหนี หมาอีกสามสี่ตัวตรงลานทรายพลอยลุกตาม ฉันก็พูดให้เว่อร์ไปอย่างนั้นแหละ วัดมีที่ดินราวยี่สิบไร่ เป็นที่ตั้งศาลาอาคารต่างๆ กุฏิ และวิหารหลวงปู่ทวด บริเวณที่เหลือเป็นสวนปาล์มของวัด ความจริงวัดเองก็ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน แม้ที่บริเวณนี้ในอดีตชาวบ้านจะเคยกันไว้เป็นที่ดินสุสาน แต่มันก็ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นไปตามกฎหมายแต่อย่างใด เข้าใจว่าตอนหลัง เส้นแนวเขตที่ดินป่าชายเลนจะถูกขีดมาทับที่ป่าช้าอีกด้วย
หมาสามตัวนั้นคงไม่เข้าใจหรอกว่าทำไม ผู้ชายวัยกลางคนท่าทางใจดีซึ่งเป็นผู้มาใหม่(เช่นเดียวกับไอ้หมาน้ำตาล)จึงต้องมาไล่พวกมันออกจากที่อยู่ดั้งเดิม …”ดูใจดำแต่ฉันหวังดี ที่ต้องทิ้งเธอตามลำพัง ไม่อยากให้เธอลำบากด้วยกัน..!” ฉันฮัมเพลงรักบาดเจ็บ ทว่างดงาม ของนักร้องดังในอดีต ขณะยื่นด้ามไม้กวาดขึ้นแขวนไว้กับเสากุฏิ.