โดย ฟองเวลา
อาศัยแรงเหวี่ยงไปด้านหลังแบบการเหวี่ยงของลูกตุ้ม แล้วหมุนวนแบบชิงช้าสวรรค์ โดยอาศัยการโยกลำตัวข่วยให้เกิดแรงส่ง ไม้ฆ้อนในมือก็ตีกระทบระฆังดัง เหง่ง!!! ‘หลวงไข่’ทิ้งน้ำหนักแขนลงขณะมือยังกุมด้ามฆ้อนไว้แน่น แรงเหวี่ยงรอบใหม่ก็บังเกิดขึ้น ถี่ขึ้น!ๆ กระบวนการตีระฆังแบบ’สามลา’ สัญญานเตือนภิกษุว่าได้เวลาทำวัตรเช้า- เย็นแล้ว ฝูงสุนัขสิบกว่าตัวของวัด ตอบรับเสียงระฆังอย่างโหยหวล แต่ก็เป็นแค่ช่วงแรก เมื่อเสียงระฆังในลาที่สองดังขึ้น ไม่ปรากฎเสียงประสานจากหมาวัดอีกแล้ว เหมือนจะจบภารกิจของมัน แต่ละตัวต่างขยับขดตัวนอนเช่นเดิม ที่ใครที่มัน ‘หลวงไข่’ ยังต้องตีระฆังจนครบสามลา ฉันเฝ้าดูการตีระฆังของพระวัย 53 ปี ทุกวัน ‘หลวงไข่’ลากร่างกายซึ่งเคยประสบอุบัติเหตุทางรถ การผ่าตัดในภายหลังเมื่อหมอตรวจพบว่ากระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หลังการผ่าตัดถึงสองครั้ง ร่างกายซีกซ้ายก็ดูเหมือนจะทรยศไม่ยอมขึ้นตรงต่อการสั่งการของหัวใจ
ในวัย 25 ขณะเป็นลูกเรืออวนลากด้วยความจำเป็น เที่ยวนั้นลูกเรือขาด ญาติผู้พี่ซึ่งประจำอยู่ในเรือก่อนแล้ว ได้ชวน’หลวงไข่’ไปช่วย ในค่ำคืนที่ดีเปรสชั่นปั่นคลื่นน้ำในอ่าวไทยอย่างคุ้มคลั่ง มือยักษ์พลิกเรือประมงกระจ้อยร่อยจนคว่ำ ทางบ้านติดตามข่าวคราวด้วยกังวลใจ บนบานเสด็จฯในกรมหลวงชุมพร ให้ลูกชายรอดปลอดภัย จะให้บวชพระถวาย จึงรอดมาได้เหมือนปาฏิหาริย์ ลืมคำสัญญาที่ให้ไว้ ไม่เท่าไหร่สัญญาณทวงหนี้ก็มาถึง หนุ่มเพญจเพศซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปประสบเหตุ เข้ารักษาในโรงพยาบาลหายดีแล้วจึงบวชแก้บนให้ บวชเป็นพระแล้วแผลภายในค่อยๆออกฤทธิ์ ยี่สิบกว่าพรรษาผ่านมา การปฏิบัติกิจ’ตีระฆังเช้า – เย็น ของหลวงไข่ดูจะเป็นเรื่องลำบากยากเย็นเอาการ การขึ้นขึ้น-ลง หอระฆัง การตี และการใช้ร่างกายซีกขวากระเผลกลากซ้ายไปสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น แสงฟ้าทิศตะวันออกเรื่องเรือง ไม่กี่นาทีต่อมาก็ปรากฎเสียงระฆังกระทบโสต เสียงสุนัขหอนโหย เสียงสวดมนต์ทำวัตรเช้าของคณะสงฆ์ และเสียงกรนอย่างหนักหน่วงของ’หลวงไข่’ดังทะลุผนังกุฏิ …หลังเสร็จจากทำวัตรเช้าแล้ว.