แปดทศวรรษของแม่(1)

บทความโดย ฟองเวลา

ภาพโดย ฟองเวลา

ปีนี้แม่อายุ 80 ปีพอดี ผู้หญิงตัวเล็ก ผอม และยิ่งอายุมากขึ้นน้ำหนักตัวยิ่งน้อยลง รู้สึกว่าตอนนี้แม่จะมีน้ำหนักแค่ 30 กว่ากิโลเท่านั้น ด้วยนิสัยไม่ชอบกินหมู กินไก่ ชอบกินแต่แกง’เคย เกลือ ผักข้างบ้าน’ ทำให้แม่ไม่ค่อยมีโรคภัย สุขภาพร่างกายแข็งแรงตามวัย แม่เป็นผู้หญิงคนแรกที่ฉันอนุญาตให้สัมผัสเนื้อตัวได้ทุกส่วน แม่ยังทำงานทุกวัน ปลูกผัก ปลูกดอกไม้ รดน้ำต้นไม้ และลอกใบจากสำหรับมวนยาสูบส่งขาย แม่ลอกเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน แต่ทำอย่างชำนิชำนาญตามเทคนิคของแม่ แม่สามารถเดินลอกใบจาก ขณะสายตาชมต้นไม้ใบหญ้า ตรวจดูหอยทากที่แอบมากินใบถั่วพู หรือยืนพูดคุยพาทีกับเพื่อนบ้านที่เดินมาเยี่ยมชมต้นไม้ของแม่ขณะสองมือก็ฉีกลอกพี้ใบจากโดยไม่ต้องก้มมองเนื้องาน

ภาพโดย ฟองเวลา

ตั้งแต่เริ่มวิกฤตโควิด ปริมาณการขายใบจากลดลง หลานผู้มีอาชีพขายปลาแห้งตามตลาดนัด และช่วยเป็นธุระ นำใบจากของแม่ไปช่วยขายส่งให้กับร้านชำ เธอแจ้งว่า ลูกค้าประจำเริ่มลดปริมาณการซื้อ ลดลงเรื่อยๆ พอเข้าช่วงโควิดระบาดรอบสอง จำนวนใบจากที่ส่งขายลดลงเกินครึ่ง ยอดจากที่แม่ซื้อมาไว้สำหรับลอก ยังเหลือเป็นกอง โคนยอดเริ่มเหี่ยวคล้ำเพราะทิ้งไว้หลายวัน น้องสาวสองคนที่เป็นกำลังแรงงานหลักในการแปรรูปใบจาก ปรารภอย่างเป็นกังวล “เห้อ!! ยากเย็นอย่างแรง ไอ้โครงการเราชนะของรัฐบาลนี่” น้องสาวคนเล็กบ่น หลังจากพยามตรวจสอบสิทธิ์ทางโทรศัพท์มือถือ แบะข้อความแจ้งว่า ‘หมายเลขบัตรประชาชนของคุณไม่ถูกต้อง’ ไม่ใช่เรื่องผิดถ้าเธอจะหวังนำเงินจำนวน 7,000 บาท มาช่วยคลี่คลายสภาพความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจที่ครอบครัวเผชิญอยู่ ….

ภาพโดย ฟองเวลา

ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา พี่ๆ น้องๆ และหลาน ต้องช่วยเจียดเงินคนละนิดละหน่อย รวบรวมเป็นค่าใช้จ่ายรายวันของหลาน 3 คน ซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียน ด้วยพ่อของเด็กๆ ต้องย้ายไปอยู่ที่วัด ทำหน้าที่ปรนนิบัติปู่ พระชราที่ถูกโรคภัยและความเสื่อมแห่งสังขารเล่นงาน ส่วนแม่เด็กๆ แม้จะมีงานประจำ แต่รายได้อันจำกัดนั้นทำให้เธอแบ่งส่งให้ลูกๆได้ไม่มาก “ถ้าไม่คิดหาตลาดรองรับ คงอยู่ไม่ได้” น้องสาวอีกคนสรุปสถานการณ์ให้ฟัง เมื่อฉันแวะไปทำธุระที่บ้าน ฉันนิ่งฟังคำปรารภจากปากน้องสาว โดยไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด แต่ในหัวนั้นปั่นป่วน ขึ้งเครียด “ใจเย็นเย็น อย่าไปเครียดไหรมาก เรายังดีกว่าหลายครอบครัว ยังมีบ้านอยู่ไม่ต้องเช่าเขา มีผักหญ้าข้างบ้านยังพอได้เก็บกิน เราใช้จ่ายประหยัดๆเอาหน่อย” การไปอาศัยอยู่ที่วัด ทำให้ฉันไม่ค่อยรับรู้สภาพปัญหาในครัวเรือน และพี่ๆ น้องๆ ก็ไม่ค่อยถ่ายทอดให้ฟังด้วยไม่อยากให้ฉันพลอยไม่สบายใจไปด้วย แต่เมื่อรับรู้สภาพที่ดำเนินอยู่ การปล่อยวางนับเป็นการลอยตัวอยู่เหนือปัญหาอย่างน่าละอายยิ่ง ธรรมะคงช่วยอะไรไม่ได้ ฉันนึกถึงเพื่อนมิตรในต่างจังหวัด และตัดสินใจขอความช่วยเหลือ โดยการขอให้เพื่อนมิตร ช่วยเป็นธุระ ติดต่อร้านชำสักร้าน สองร้าน เพื่อทดลองส่งใบจากไปวางขาย เป็นการกระจายผลผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ทดลองทำตลาดออนไลน์ ออฟไลน์โดยอาศัยความเมตตาจากกัลยาณมิตร เพื่อนจากนาโพธิ์ สวี รีบรับคำอย่างไม่เอื้อนออด เพื่อนจากลำทับ กระบี่ ก็ไม่บ่ายเบี่ยง ‘ศักดา น้ำเค็ม’ แนะนำให้ติดต่อไปที่ ‘น้องหญิง มอแกลนบนไร่’ เพื่อนมิตรท่านใด ที่ได้รับการติดต่อไป ให้โปรดทราบว่า ท่านอยู่ในข่ายได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจอย่างสูงยิ่ง….. #นิวนอมอล โลกอาจไม่เหมือนเดิม แต่มิตรภาพยังสัมผัสรู้ได้ ว่าคงเดิม.