บทความโดย ฟองเวลา
“โจ๊กไม่ใส่ไข่แปดถุง” แม่ค้าโจ๊กเงยหน้าขึ้นมอง แต่พอเห็นเป็นขาประจำก็เผยรอยยิ้มพร้อมขานรับคำ ขณะที่สองมือยังผูกหนังยางมัดปากถุงข้าวต้มโจ๊กอย่างชำนิชำนาญ “ปาท่องโก๋ตัวเล็กสี่สิบ” หันไปสั่งพ่อค้าปาท่องโก๋ซึ่งมีโต๊ะเป็นที่ประกอบการค้าอยู่ติดๆกับโต๊ะข้าวต้ม ส่วนเตากับกระทะนั้นตั้งลึกถัดเข้าไปทางร้านตัดผมชาย แม่ค้าโจ๊กกับพ่อค้าปาท่องโก๋น่าจะเป็นแม่ลูกกัน ระหว่างยืนรอแม่ค้าตัก บรรจุ มัดถุงข้าวต้มจำนวน 8 ถุง ฉันขยับตัวมายืนอยู่ตรงแนวท่อระบายน้ำขอบถนนเพื่อจะได้ไม่กีดขวางการจราจร ระหว่างนั้นหากมีลูกค้าขาประจำอื่น แวะมาสั่งข้าวต้มจำนวนหนึ่งถุง แม่ค้าก็จะจัดให้เขาได้ลัดคิดก่อน …ซึ่งก็ควรเป็นเช่นนั้น “ข้าวต้มไม่ใส่ไข่หนึ่งถุงจ๊ะ” เสียงหวานใสดังอยู่ใกล้ๆ เมื่อหันไปมองก็พบเป็นหญิงสาว ดวงตาและใบหน้าใต้ผมม้าส่วนที่โผล่พ้นหน้ากากผ้า บงชี้ว่าเธอมีหน้าตาดีทีเดียว “แป๊บนะ” แม่ค้าขานคำรับหญิงสาว พร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า มือสองข้างเร่งความเร็วขึ้น ..ฉันแอบคิดว่าแม่ค้าไม่เผลอมัดนิ้วตัวเองเข้ากับถุงข้าวต้มบ้างล่ะ คงยุ่ง!! “ทำงานที่ไหนแล้ว” แม่ค้าถามหญิงสาวโดยมิได้เงยหน้ามอง เพราะต้องเพ่งไปที่ตะหลิวตักข้าวต้มกรอกถุง “ทำที่กรุงเทพเหมือนเดิมจ๊ะ” หล่อนตอบแม่ค้าวัยคุณป้า “ออ.. นี่ลงมาพักผ่อนเฉยๆ” แม่ค้าพูดคล้ายเป็นการข่วยต่อประโยคคำอธิบาย เมื่อได้รับรู้ว่าเธอแค่ลงมาพักผ่อน ฉันรีบขยับห่างไปยืนอีกฟากของฝาปิดคูระบายน้ำ ซึ่งคะเนแล้วว่าทำระยะห่างจากหญิงสาวเกิน 2 เมตร แม่ค้าโจ๊กไม่ได้สวมแมส เช่นเดียวกับพ่อค้าทอดปาท่องโก๋ ส่วนฉันพยายามหายใจเบาเพื่อไม่ให้เกิดแรงดูดอากาศผ่านแมสมากนัก แม่ค้าไอสองสามครั้ง คงสำลักกลิ่นควันจากกระทะทอด.